ทำไมต้องใช้ท่อ HDPE เมื่อต้องการฝังสายเคเบิลลงดิน

ทำไมต้องใช้ท่อ HDPE เมื่อต้องการฝังสายเคเบิลลงดิน

คุณสมบัติของท่อ HDPE สำหรับการร้อยสายไฟสายเคเบิลฝังดิน


       ปฏิเสธไม่ได้ว่าในการก่อสร้างอาคารหรือบ้านพักอาศัยแต่ละหลังนั้น สิ่งสำคัญที่เจ้าของทุกคนต่างก็ให้ความสนใจไม่น้อยไปกว่ารูปแบบของโครงสร้างและวัสดุต่าง ๆ ที่นำมาใช้สำหรับการสร้างอาคารหรือตัวบ้านแล้วนั้น ก็คือรูปแบบของการเก็บงานในส่วนของระบบสายไฟต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ หรือสายเคเบิล ส่งผลให้ในปัจจุบันนี้การออกแบบและติดตั้งระบบสายงานต่าง ๆ แบบฝังลงดิน (Underground Cable System) จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของงานเดินสายระบบที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น เนื่องด้วยข้อดีในด้านของความเป็นระเบียบเรียบร้อยและดูสะอาดตา

       แต่อย่างไรก็ตาม การเดินสายระบบแบบฝังดินนั้นก็ยังถือได้ว่ามีข้อจำกัดและข้อควรระวังในหลาย ๆ ด้านที่แตกต่างออกไปจากการเดินสายระบบแบบบนดิน ทั้งในด้านของอุณหภูมิ สภาพอากาศ และความเป็นกรด-ด่างของดิน ที่ส่งผลต่อคุณภาพและความคงทนของสายไฟและสายเคเบิล ส่งผลให้การเลือกใช้ท่อร้อยสายไฟแบบท่อ HDPE เพื่อเป็นตัวกลางสำหรับการร้อยสายไฟหรือสายเคเบิลต่าง ๆ ก่อนการนำไปฝังลงดิน จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางออกสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้สายไฟหรือสายเคเบิลดังกล่าวเกิดการชำรุดและเสียหายเมื่อต้องนำไปใช้สำหรับการวางระบบใต้ดินได้อย่างตรงจุด

ทำความรู้จักกับท่อ HDPE

       ท่อ HDPE (High Density Polyethylene) หรือที่มักจะนิยมเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า ท่อ PE เป็นท่อร้อยสายไฟประเภทหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นท่อสีดำ พื้นผิวมีความเรียบ และมัน ทั้งบริเวณด้านนอกและด้านในของท่อ เนื่องจากถูกผลิตขึ้นมาจากวัสดุพลาสติกเชิงวิศวกรรม อย่าง พอลิเอทิลีน (Polyethylene, PE) ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดที่มีคุณสมบัติที่ดีในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของคุณสมบัติทางฟิสิกส์ที่มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา อีกทั้งยังสามารถยืดหยุ่นตัวได้ดีจึงทำให้สามารถทนทานต่อแรงกระแทกหรือบีบอัดได้

       นอกจากนี้ท่อ HDPE หรือท่อ PE ยังมีคุณสมบัติเป็นกลางทางเคมี จึงทำให้ไม่สามารถทำปฏิกิริยากับสารเคมี และสามารถทนทานต่อค่าความเป็นกรด-ด่างของดินได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่เกิดสนิม หรือเกิดการผุกร่อนจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อสายไฟฟ้าหรือสายเคเบิลที่อยู่ด้านใน ท่อ HDPE ยังมีคุณสมบัติในการต้านทานต่อการกัดกร่อนจากปฏิกิริยาทางไฟฟ้า ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่มีสาเหตุมาจากไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ท่อ HDPE ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายสำหรับการนำมาใช้งานเพื่อเป็นท่อร้อยสายไฟในการเดินสายระบบต่าง ๆ ในสถานที่โล่งแจ้งนอกอาคาร หรือการนำมาฝังลงใต้ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

      


คุณสมบัติที่สำคัญของท่อ HDPE สำหรับการนำมาใช้ในการร้อยสายเคเบิลฝังดิน

  1. ท่อ HDPE ถูกผลิตขึ้นมาจากวัสดุพลาสติกที่มีคุณสมบัติในการเป็นฉนวนไฟฟ้า จึงทำให้สามารถนำมาใช้สำหรับการเดินสายระบบแบบฝังดินทั้งการเดินสายไฟฟ้า สายสัญญาณโทรศัพท์ หรือสายเคเบิลได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาไฟลุกไหม้ที่เป็นอันตรายจากการที่สายเคเบิลเกิดการชำรุด หรือเสียหาย จนเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้

  2. ท่อ HDPE หรือ ท่อ PE มีคุณสมบัติทางฟิสิกส์ในการยืดหยุ่นตัวที่ดี จึงทำให้สามารถทนทานต่อแรงกดทับที่เกิดจากการฝังกลบท่อ HDPE ลงไปใต้ดิน รวมไปถึงแรงอัดกระแทกที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศของพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น การเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม รวมไปถึงการเกิดการทรุดตัวของพื้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ไม่เกิดการร้าวหรือแตกหักจนทำให้สายเคเบิลที่อยู่ด้านในเกิดความเสียหาย

  3. ท่อ HDPE สามารถทนทานต่อสภาพอากาศและอุณหภูมิที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะสำหรับการนำมาใช้ในการเดินระบบแบบฝังลงดินที่มีความชื้นและอุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิของพื้นดิน อีกทั้งท่อ HDPE ยังสามารถทนทานต่อสภาพความเป็นกรด-ด่าง ของดินได้โดยที่ไม่เกิดสนิม หรือเกิดการถูกกัดเซาะเสียหาย ซึ่งทำให้ท่อ HDPE มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและสามารถนำมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งานได้ดีกว่าท่อชนิดอื่น ๆ

  4. ท่อ HDPE มีให้เลือกใช้งานได้หลากหลายขนาดตามความต้องการ ตั้งแต่ขนาดเล็กที่ 20 มม. ไปจนถึงขนาดใหญ่กว่า 200 มม. จึงทำให้เหมาะสำหรับการนำมาใช้ในการเดินระบบแบบฝังดินได้อย่างหลากหลาย ทั้งการใช้งานเพื่อเป็นท่อร้อยสายไฟฟ้าแรงดันต่ำ หรือท่อร้อยสายไฟฟ้าแรงดันสูง การใช้งานสำหรับร้อยสายโทรศัพท์ และการใช้งานสำหรับร้อยสายเคเบิลประเภทต่าง ๆ ที่มีขนาดแตกต่างกัน

  5. ท่อ HDPE มีพื้นผิวบริเวณด้านนอกและด้านในของตัวท่อที่มีลักษณะเรียบ ลื่น และมีความฝืดต่ำ จึงทำให้สามารถนำมาใช้งานเพื่อการร้อยสายเคเบิลหรือสายไฟฟ้าอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกและไม่ติดขัด ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการหักงอของสายเคเบิลในระหว่างการร้อยเข้าสู่ท่อร้อยสายไฟได้ดีมากยิ่งขึ้น

ข้อควรระวังในการเลือกใช้งานท่อ HDPE สำหรับการนำมาใช้ในการร้อยสายเคเบิลฝังดิน

  1. การเลือกท่อ HDPE สำหรับการนำมาใช้ในการเดินสายเคเบิลแบบฝังดิน ควรเลือกใช้ท่อ HDPE ที่ถูกผลิตจากโรงงานที่มีความน่าเชื่อและตัวท่อ HDPE มีการได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานอ้างอิงตามข้อกำหนดทางวิศวกรรมจากการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ตามมาตรฐาน DIN 8074/8075 ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้การยอมรับในการนำท่อ HDPE มาใช้เป็นท่อสำหรับการเดินสายระบบสายไฟฟ้า สายเคเบิล สายโทรศัพท์ และสายเคเบิลใยแก้ว (Optional Fiber Cables) แบบใต้ดิน (Underground Cable System) เพื่อให้ท่อ HDPE สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานเต็มประสิทธิภาพ โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องสูญเสียเงินและเวลาไปการซ่อมแซมและบำรุงรักษาท่อ HDPE ก่อนถึงเวลาอันสมควร

  2. ควรเลือกใช้ขนาดท่อ HDPE ให้เหมาะสมกับขนาดหน้าตัดของสายไฟฟ้า หรือสายเคเบิล เนื่องจากการเดินสายระบบแบบใต้ดินมีข้อควรระวังเกี่ยวกับอุณหภูมิใต้ดินที่จะมีความแตกต่างไปจากอุณหภูมิบนดิน โดยมาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้าแห่งประเทศไทยได้มีการกำหนดอุณหภูมิเฉลี่ยบนดินไว้ที่ราว ๆ 40°C ในขณะที่อุณหภูมิใต้ดินนั้นจะถูกกำหนดไว้ที่ราว ๆ 30°C เท่านั้น และด้วยอุณหภูมิที่แตกต่างกันถึง 10°C นี้ ทำให้สายไฟฟ้าหรือสายเคเบิลจากการวางระบบสายแบบฝังดินนั้นจะสามารถนำกระแสไฟฟ้าได้ดีมากกว่าสายที่อยู่บนดินอันเนื่องมาจากผลของอุณหภูมิที่ต่ำลงกว่ากัน ส่งผลให้สายไฟส่วนใหญ่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานแบบฝังลงดินนั้นจึงมีขนาดที่เล็กลงกว่าปกติเมื่อนำไปเทียบกับสายไฟจากอุปกรณ์ชนิดเดียวกันที่มีการเดินสายระบบอยู่บนดิน

  3. ท่อ Main จะใช้ท่อ HDPE CONDUIT CLASS-I ท่อโค้ง 90 องศา และท่อที่ติดตั้งบนพื้นจะใช้ท่อ HDPE CONDUIT CLASS-II ท่อร้อยสายไฟ HDPE ผลิตตามแบบข้อกำหนดทางวิศวกรรมของการไฟฟ้านครหลวงเป็นไปตามมาตรฐานการผลิตท่อ DIN 8074/75/1999 PE80 หรือผลิตตามมาตรฐาน มอก.982-2556 ความหนาของขนาดท่อ 20 มม.อ้างอิงจาก PN10, ความหนาของขนาดท่อ 25 มม. และ 32 มม. อ้างอิงจาก PN8 ตามมาตรฐาน DIN 8074/75/1999 PE80


        สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาท่อ HDPE หรือ ท่อ PE ที่สามารถใช้ได้ทั้งงานบนดินและฝังใต้ดิน เพื่อใช้เป็นฉนวนสำหรับหุ้มป้องกันสายไฟฟ้า สายเคเบิล สายโทรศัพท์ และสายเคเบิลใยแก้ว 

สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. : 085-567-1222, 092-775-9000
https://www.saphomecenter.com/
Email: saphomec@gmail.com
แฟ็กซ์
: 02-876-1733
LINE ID : @saphome

Visitors: 518,718