ความหนาของท่อพีวีซีที่แตกต่างกัน ส่งผลสำคัญต่อการใช้งานอย่างไร?

ลักษณะและคุณสมบัติของท่อ PVC

ท่อพีวีซี (ท่อ PVC) ทำมาจากพลาสติกโพลิไวนิลคลอไรด์หรืออีกชื่อที่เรารู้จักกันว่า ‘พีวีซี’ มักถูกนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์ในงานด้านการก่อสร้าง, งานอุตสาหกรรม หรืองานด้านระบบต่างๆ อาทิเช่น ท่อพีวีซีระบายน้ำ, ท่อพีวีซีประปา, ท่อพีวีซีลำเลียงน้ำ หรือท่อพีวีซีเดินงานระบบสายไฟ เป็นต้น ลักษณะโครงสร้างของท่อ PVC ทั่วๆ ไปมักมีจะลักษณะพื้นผิวเรียบและทรงยาว และเนื่องจากผลิตมาจากพลาสติกส่งผลให้ท่อ PVC จะไม่เป็นสนิม, น้ำหนักค่อนข้างเบา, มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นฉนวนไฟฟ้าได้ดี, ทนต่อการสึกกร่อน และสามารถรับแรงกระแทกหรือแรงดันน้ำได้ดี ลักษณะและคุณสมบัติของท่อ PVC ที่ครบถ้วนเช่นนี้ส่งผลให้ท่อ PVC มักเป็นที่ต้องการของท้องตลาดอีกทั้งยังสามารถแบ่งความหนาของท่อ PVC ได้อีกสามชั้นเพื่อตอบสนองความต้องการในเรื่องของการใช้งานของผู้ซื้อให้ได้มากที่สุด

ความหนาของท่อพีวีซีแบ่งเป็นกี่ชั้น ?

ความหนาของท่อพีวีซีหรือเราจะเรียกว่าชั้นของท่อพีวีซีก็ได้เช่นกัน โดยสามารถแบ่งออกเป็นสามชั้นด้วยกัน ประกอบไปด้วย ท่อพีวีซีชั้น 5, ท่อพีวีซีชั้น 8.5 และท่อพีวีซีชั้น 13.5 ซึ่งแต่ละชั้นที่แตกต่างกันนั้นจะเป็นหน่วยรับแรงดันของท่อพีวีซีนั้นๆ โดยแต่ละชั้นของท่อพีวีซีจะต้องสามารถรองรับอุณหภูมิอยู่ที่ 27 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นมาตรฐานที่ มอก. ได้กำหนดไว้ และแน่นอนว่าชั้นของท่อพีวีซีที่แตกต่างกันก็จะเป็นตัวกำหนดขนาดและน้ำหนักของแต่ละท่อพีวีซีนั่นเอง การเลือกความหนาของท่อพีวีซีให้เหมาะกับลักษณะของการใช้งานมีความสำคัญมากๆ เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในงานนั้นๆ สามารถสอบถามหรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับชั้นของท่อพีวีซีเพิ่มเติมได้ที่นี่ เรามีที่ปรึกษาที่คอยให้คำแนะนำคุณตลอด 24 ชั่วโมง

ลักษณะและคุณสมบัติของท่อ PVC ชั้น 5

ท่อ PVC ชั้น 5 คือความสามารถของท่อที่จะสามารถรับแรงดันได้ สำหรับชั้น 5 คือท่อ PVC ที่สามารถรับแรงดันได้ 0.5 MPa หรือ 5 Bar หรือ 7.25 Psi นับได้ว่าเป็นท่อ PVC ที่มีความหนาที่บางที่สุด ดังนั้นจึงจะเหมาะสมกับลักษณะของงานที่รับแรงดันที่น้อย อาทิเช่น ท่อ PVC สำหรับการทำเป็นท่อน้ำทิ้งหรือทำเป็นท่อน้ำฝน เป็นต้น

ลักษณะและคุณสมบัติของท่อ PVC ชั้น 8.5

ท่อ PVC ชั้น 8.5 คือความสามารถของท่อที่จะสามารถรับแรงดันได้ สำหรับชั้น 8.5 คือท่อ PVC ที่สามารถรับแรงดันได้ 0.85 MPa หรือ 8.5 Bar หรือ 123.3 Psi นับได้ว่าเป็นท่อ PVC ที่มีความหนาปานกลาง ดังนั้นจึงจะเหมาะสมกับลักษณะของงานที่ต้องรับแรงดันที่ไม่น้อยและไม่มากเกินไป อาทิเช่น ท่อ PVC สำหรับการทำเป็นท่อการเกษตรหรือท่องานระบบสุขาภิบาล เป็นต้น

ลักษณะและคุณสมบัติของท่อ PVC ชั้น 13.5

ท่อ PVC ชั้น 13.5 คือความสามารถของท่อที่จะสามารถรับแรงดันได้ สำหรับชั้น 13.5 คือท่อ PVC ที่สามารถรับแรงดันได้ 1.35 MPa หรือ 13.5 Bar หรือ 195.8 Psi นับได้ว่าเป็นท่อ PVC ที่มีความหนามากที่สุด ดังนั้นจึงจะเหมาะสมกับลักษณะของงานที่ต้องรับแรงดันที่สูง อาทิเช่น ท่อ PVC สำหรับการทำเป็นท่อหลักในอุตสาหกรรมต่างๆ
เพิ่มปุ่ม Add Line
สอบถามข้อมูล

ความหนาของท่อพีวีซีที่แตกต่างกันส่งผลต่อการใช้งานอย่างไร ?

สาเหตุที่ท่อพีวีซีถูกออกแบบให้มีความหนาที่แตกต่างกันก็เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการใช้งานของผู้ซื้อให้ได้มากที่สุด โดยความหนาที่ต่างกันทั้งสามชั้นอันประกอบไปด้วยท่อพีวีซีชั้น 5, ท่อพีวีซีชั้น 8.5 และท่อพีวีซีชั้น 13.5 ตัวเลขที่แสดงถึงความหนาของท่อพีวีซีจะเป็นตัวบ่งบอกถึงลักษณะในการเลือกนำไปใช้งานระบบต่างๆ อย่างท่อพีวีซีชั้น 5 จะเหมาะสำหรับงานที่รับแรงดันได้น้อย อาทิเช่น งานท่อระบบเกี่ยวกับด้านการเกษตรหรืองานท่อระบบอาคารสำนักงาน เป็นต้น ตัวเลข 5 ที่ปรากฏอยู่แสดงให้เห็นว่าท่อพีวีซีนั้นสามารถรับแรงดันได้แค่ 5 บาร์นั่นเอง สำหรับท่อพีวีซีชั้น 8.5 จะเหมาะสำหรับงานระบบที่สามารถรับแรงดันได้มากกว่าท่อพีวีซีชั้น 5 อาทิเช่น งานระบบเกี่ยวกับด้านสุขาภิบาล, งานระบบท่อที่ฝังในผนังหรือฝังในดิน เป็นต้น ตัวเลข 8.5 ที่ปรากฏอยู่แสดงให้เห็นว่าท่อพีวีซีนั้นสามารถรับแรงดันได้ 8.5 บาร์ และสำหรับท่อพีวีซี 13.5 จะเหมาะสำหรับงานระบบที่สามารถรับแรงดันได้มากที่สุดเพราะมีความหนาของท่อมากที่สุดนั่นเอง อาทิเช่น งานระบบที่ต้องใช้ท่อหลักในการลำเลียงอย่างงานระบบสระว่ายน้ำหรืองานระบบโรงงาน ซึ่งล้วนเป็นงานระบบที่ต้องอาศัยท่อพีวีซีที่มีคุณสมบัติรับแรงดันได้มาก งานระบบเหล่านี้จำเป็นที่ต้องใช้ท่อพีวีซีที่มีความหนามากเป็นพิเศษ

เห็นได้ชัดว่าความหนาของท่อพีวีซีที่แตกต่างกันส่งผลต่อการใช้งานเป็นอย่างมากเพราะถ้าหากเราไม่มีความรู้มากพอในการเลือกใช้ท่อพีวีซีอาจจะส่งผลกระทบต่องานระบบได้มากเลยทีเดียวเพราะฉะนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อท่อพีซีวีควรศึกษางานระบบที่เราต้องการเสียก่อนและที่สำคัญควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องท่อพีวีซีโดยเฉพาะเพื่อที่เราจะได้ใช้งานท่อพีวีซีนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากความหนาของท่อพีวีซีที่มีให้เราเลือกทั้งสามชั้นแล้วท่อพีวีซียังมีสีที่แตกต่างกันออกไปถึงสี่สี อันได้แก่ ท่อพีวีซีสีเทา, ท่อพีวีซีสีเหลือง, ท่อพีวีซีสีฟ้า และท่อพีวีซีสีขาว สีที่แตกต่างกันของท่อพีวีซีก็ส่งผลต่อการเลือกใช้งานเช่นกัน และสีของท่อพีวีซีที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อการใช้งานอย่างไรบทความนี้จะมาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ

สีของท่อ PVC ที่แตกต่างกันส่งผลต่อการใช้งานอย่างไร ?

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นการเลือกท่อ PVC ให้เหมาะสมกับการใช้งานนอกจากเราจะเลือกจากความหนาทั้งสามชั้นของท่อ PVC แล้วเราต้องยังทราบถึงที่มาของสีท่อ PVC แต่ละสีด้วยเพื่อที่จะได้เลือกนำไปใช้ให้เหมาะสมกับเนื้องานมากที่สุด ท่อ PVC ทั้งสี่สีประกอบไปด้วย ท่อ PVC สีเทา, ท่อ PVC สีเหลือง, ท่อ PVC สีฟ้า และท่อ PVC สีขาว ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้

ท่อ PVC สีเทา : มักจะถูกนำไปใช้งานในระบบท่อระบายน้ำทิ้ง/ท่อชลประทาน/ท่องานด้านการเกษตรโดยมีขนาดมาตรฐานประมาณ ¼ - 5 นิ้ว โดยทั่วไปแล้วท่อ PVC สีเทาจะเป็นท่อพีวีซีแข็งและรับแรงดันได้ค่อนข้างน้อย

ท่อ PVC สีเหลือง : มักจะถูกนำไปใช้งานในระบบสายโทรศัพท์/ระบบร้อยสายไฟฟ้าต่างๆ โดยมีขนาดมาตรฐานประมาณ ⅜ - 4 นิ้ว โดยทั่วไปแล้วท่อ PVC สีเหลืองจะเป็นท่อ PVC แข็งเช่นเดียวกันกับ ท่อ PVC สีเทา และมีคุณสมบัติเด่นในการเป็นฉนวนไฟฟ้าที่สำคัญไม่เป็นสนิมได้ง่ายเพราะทำมาจากพลาสติก ดังนั้นผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลว่าท่อ PVC จะติดไฟ

ท่อ PVC สีฟ้า : มักจะถูกนำไปใช้งานด้านระบบระบายน้ำ/ระบบน้ำประปา/ระบบน้ำดื่มโดยมีขนาดมาตรฐานประมาณ ½ - 16 นิ้ว เรามักจะพบเห็นท่อ PVC สีฟ้ามากที่สุดตามอาคารบ้านเรือกหรืออาคารสำนักงาน เหมาะสำหรับการลำเลียงน้ำดีเพื่อนำไปดื่มหรือนำไปชำระร่างกายก็สามารถเลือกใช้ท่อ PVC สีฟ้าได้เช่นกัน

ท่อ PVC สีขาว : มักจะถูกนำไปใช้งานในระบบสายโทรศัพท์/ระบบร้อยสายไฟฟ้าต่างๆ เช่นเดียวกันกับท่อ PVC สีเหลือง แต่มีขนาดโดยมาตรฐานที่แตกต่างกันเล็กน้อย สำหรับท่อ PVC สีขาวจะมีขนาดประมาณ ⅜ - 2 นิ้วในขณะที่ท่อ PVC สีเหลืองจะมีขนาดโดยประมาณ ⅜ - 4 นิ้ว หลายคนมักเลือกใช้ท่อ PVC สีขาวร้อยสายไฟแทนท่อ PVC สีเหลืองเพราะเนื่องจากท่อ PVC สีขาวจะกลมกลืนกับสีผนังได้ง่ายและที่สำคัญสามารถทาสีอื่นทับได้ง่ายกว่าท่อ PVC สีเหลือง

แนะนำวิธีการเลือกท่อพีวีซีให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ก่อนที่เราจะเลือกซื้อท่อพีวีซีอย่างแรกที่เราจำเป็นต้องรู้นั่นก็คือการทำความเข้าใจในงานระบบของเราเสียก่อน หลังจากนั้นก็นำความรู้ที่ได้จากการอ่านบทความนี้โดยเริ่มตั้งแต่การเลือกความหนาของชั้นท่อพีวีซีให้เหมาะกับงานระบบ จากนั้นสังเกตสีของท่อพีวีซีและเลือกคุณสมบัติสีท่อพีวีซีให้ตรงกับความต้องการของเรา หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเลือกท่อพีวีซีให้เหมาะกับลักษณะของงานระบบสามารถขอคำปรึกษาหรือคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่พร้อมดิลราคาที่สมเหตุสมผล สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาท่อ พีวีซี หรือ ท่อ PVC ที่สามารถใช้ได้ทั้งงานบนดินและฝังใต้ดิน เพื่อใช้สำหรับงานประปา

 

สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. : 085-567-1222, 092-775-9000
https://www.saphomecenter.com/
Email: saphomec@gmail.com
แฟ็กซ์
: 02-876-1733
LINE ID : @saphome

Visitors: 518,456