ข้อควรรู้ก่อนเลือกใช้ ท่อประปา PE80 & ท่อ PE100
ข้อควรรู้ก่อนเลือกใช้ ท่อประปา PE80 & ท่อ PE100
ความแตกต่างระหว่างท่อพีอี 80 & ท่อพีอี 100
สำหรับประเภทของท่อประปาที่ผู้คนนิยมเลือกใช้กันในปัจจุบันจะมีทั้งหมด 4 ประเภทหลักด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย ท่อพีวีซี (ท่อ PVC หรือ Poly Vinyl Chloride), ท่อเฮชดีพีอี (ท่อ HDPE หรือ Poly Ethylene), ท่อพีพีอาร์ (ท่อ PPR หรือ Polypropylene Copolymer Random) และท่อเหล็กอาบสังกะสี และในวันนี้เราจะขอเจาะลึกเฉพาะท่อพีอี (ท่อ PE) ซึ่งเป็นท่อประปาที่อยู่ในประเภทของท่อเฮชดีพีอี (ท่อ HDPE หรือ Poly Ethylene)
มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก) กำหนดไว้ว่าท่อ PE สำหรับทำท่อน้ำประปาที่ได้มาตรฐาน คือ ชั้นคุณภาพ PE 100 และชั้นคุณภาพ PE 80
ทำความรู้จักท่อประปา ชนิดท่อพีอี (ท่อ PE)
ท่อ PE เป็นท่อประปาประเภทโพลีเอทิลีน ซึ่งเป็นวัสดุโพลีเมอร์ที่สังเคราะห์จากโพลีเอทิลีน เป็นวัสดุพลาสติกที่ผู้คนนิยมเลือกใช้ให้เป็นท่อประปากันอย่างแพร่หลาย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการทำท่อประปาคุณภาพที่นอกจากท่อประปา PVC เพราะด้วยคุณสมบัติที่มีความหนาแน่นค่อนข้างสูง, ไม่แตกหักง่าย, สามารถขดเป็นม้วนได้ และที่สำคัญทนต่อแสง UV นอกจากนั้นยังสามารถแบ่งออกเป็นอีก 2 ประเภท นั่นก็คือ โพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ (LDPE) และโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) โดยทั้ง 2 ประเภทนี้แบ่งเกรดตามมาตรฐานสากล ประกอบไปด้วย ท่อ PE32, PE40, PE63, PE80 และ PE100 โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างของท่อประปา 2 ชนิดที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ ซึ่งอยู่ในประเภทโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) ได้แก่ ท่อ PE80 และ ท่อ PE100
ค่าท่อพีอี (ท่อ PE) คืออะไร?
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับค่าท่อ PE กันก่อน ซึ่งค่าท่อ PE มีไว้สำหรับบ่งบอกถึงคุณภาพของท่อประปา ว่าตัวท่อประปาจะสามารถรับน้ำหนักได้มากน้อยแค่ไหน โดยวัดเป็นค่าความแข็งแรงขั้นต่ำที่ต้องการ (MRS) ตามมาตรฐาน ISO12162 อย่างท่อ PE80 ค่าความแข็งแรงขั้นต่ำจะอยู่ที่ 8 Mpa และท่อ PE100 ค่าความแข็งแรงขั้นต่ำจะอยู่ที่ 10 Mpa นั่นเอง
คุณลักษณเด่นของท่อ PE80
- ผนังท่อ PE มีลักษณะหนา
- ไม่จำเป็นต้องขุดฝังใต้ดินลึก เพราะผนังท่อ PE มีความหนาสูง
- ทนแรงดันได้เป็นอย่างดี
คุณลักษณเด่นของท่อ PE100
- ผนังท่อ PE มีลักษณะบาง ควรขุดฝังใต้ดินให้ลึก
- ประสิทธิภาพการไหลของน้ำดีเยี่ยม
- มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา
- ทนแรงดันได้เป็นอย่างดี
ความแตกต่างระหว่างท่อ PE 80 VS ท่อ PE 100 มีดังนี้
1. ความแตกต่างเรื่องผนังท่อ PE : ท่อ PE80 จะมีลักษณะผนังท่อที่หนากว่าท่อ PE100
2. ความแตกต่างเรื่องการติดตั้ง : ผนังของท่อ PE100 จะมีลักษณะที่บางกว่าผนังของท่อ PE80 ดังนั้นในเรื่องของการติดตั้งจึงมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยสำหรับท่อ PE100 ที่มีผนังท่อบางควรขุดฝังลงใต้ดินให้ลึกกว่าท่อ PE80 เพราะต้องรับแรงเคลื่อนไหวบนดินให้ได้น้อยที่สุด แต่ถ้าไม่สามารถขุดฝังท่อ PE ลงลึกในดินได้ ก็ควรเลือกใช้ท่อ PE80 เพราะมีผนังที่หนากว่าสามารถทนแรงเคลื่อนไหวบนดินได้ดีกว่าท่อ PE100 แต่ทั้ง 2 แบบสามารถนำมาใช้เป็นท่อประปาได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความต้องการของการใช้งานเป็นหลัก
3. ความแตกต่างเรื่องน้ำหนักของท่อ PE : ท่อ PE100 จะมีน้ำหนักที่เบากว่าท่อ PE80 สาเหตุเป็นเพราะท่อ PE100 มีลักษณะของผนังท่อที่บางกว่า และด้วยลักษณะเด่นของผนังท่อที่บางกว่านี้เองส่งผลให้ท่อ PE100 สามารถดัดแปลงโดยการดัดหรือโค้งงอได้ง่ายกว่าท่อ PE80 ถือเป็นจุดเด่นที่ผู้คนหันมานิยมใช้ท่อ PE100 กันอย่างแพร่หลาย
4. ความแตกต่างเรื่องขนาดและความหนาแน่นของท่อพีอี 80 และ ท่อพีอี 100
- หากมีขนาดท่อและความหนาแน่นของท่อ PE ที่เท่ากัน สำหรับท่อ PE100 จะมีความสามารถที่จะรับแรงดันได้สูงกว่าท่อ PE80
- หากมีขนาดท่อและความสามารถในการรับแรงดัน (PN) ที่เท่ากัน สำหรับท่อ PE100 จะมีน้ำหนักของท่อที่วัดต่อเมตรน้อยกว่าท่อ PE80
- หากมีขนาดท่อและความสามารถในการรับแรงดัน (PN) ที่เท่ากัน สำหรับท่อ PE100 จะสามารถขุดฝังให้ลึกใต้ดินได้มากกว่าท่อ PE80 แต่ก็ควรเป็นเช่นนั้นเพราะท่อ PE100 มีผนังท่อที่บางควรขุดฝังท่อให้ลึกไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อท่อในอนาคตได้ง่าย
- หากมีขนาดท่อและความสามารถในการรับแรงดัน (PN) ที่เท่ากัน และเกิดเหตุกาณ์อุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างฉับพลัน จะส่งผลให้ความสามารถในการรับแรงดันของท่อ PE100 และท่อ PE80 มีอัตราการลดลงที่เท่าๆ กัน
- หากมีขนาดท่อและความสามารถในการรับแรงดัน (PN) ที่เท่ากัน ผนังของท่อ PE100 จะมีลักษณะที่บางกว่าท่อ PE80 อย่างเห็นได้ชัดเจน
- หากมีขนาดท่อและความสามารถในการรับแรงดัน (PN) ที่เท่ากัน สำหรับท่อ PE100 จะมีพื้นที่การไหลเวียนผ่านของน้ำในเส้นท่อมากกว่าท่อ PE80 เป็นเพราะผนังท่อของท่อ PE100 มีลักษณะที่บางกว่าท่อ PE80 โดยที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อที่เท่ากัน ส่งผลให้ท่อ PE100 มีพื้นที่ให้น้ำไหลผ่านมากกว่าท่อ PE80 นั่นเอง
- หากมีขนาดท่อและความสามารถในการรับแรงดัน (PN) ที่เท่ากัน และเกิดเหตุการณ์การเพิ่มหรือลดของอุณหภูมิที่แตกต่างกันในแต่ละวัน ทั้งท่อ PE100 และท่อ PE80 จะมีความสามารถในการรับแรงดันและการเปลี่ยนแปลงนั้นได้เท่าๆ กัน
5. ความแตกต่างเรื่องราคาของท่อ PE 80 และ ท่อ PE100
แน่นอนว่าราคาสูงหรือต่ำก็ขึ้นอยู่กับต้นทุนการผลิต อย่างที่กล่าวไปข้างต้นสำหรับท่อ PE80 ที่มีลักษณะของผนังท่อที่หนากว่าท่อ PE100 ทำให้มีต้นทุนการผลิตที่มากกว่า ส่งผลให้ท่อ PE80 มีราคาที่แพงกว่าท่อ PE100 โดยส่วนใหญ่ราคาจะคิดเป็นเมตร ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าท่อ PE80 ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 130 บาทต่อเมตร* ท่อ PE100 ราคาขายก็จะอยู่ที่ประมาณ 107 บาทต่อเมตร* เป็นต้น (เป็นเพียงราคาสมมุติ ราคาจริงจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทที่จัดจำหน่าย*)
การติดตั้งท่อ PE 80 และ ท่อ PE100
การติดตั้งท่อประปาทั้งสองแบบนี้สามารถทำได้ 2 วิธีด้วยกัน แต่ขอแนะนำว่าควรติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่าง ช่างประปา เป็นต้น
วิธีที่ 1 : การเชื่อมต่อท่อ PE ด้วยความร้อน โดยการนำความร้อนไปที่ท่อทั้งสองด้านจนพลาสติกของท่อเกิดการสัมผัสและผสานกันในบริเวณรอยต่อ จากนั้นให้ความร้อนไปเรื่อยๆ จนกว่าท่อ PE ที่นำมาเชื่อมกันเกิดการหลอมรวมเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งชิ้น ซึ่งการเชื่อมต่อท่อ PE ด้วยวิธีนำความร้อนนี้จะมีแถบเชื่อมต่ออยู่ทั้งด้านในและด้านนอก
วิธีที่ 2 : การเชื่อมต่อท่อ PE ด้วยข้อต่อชนิดพิเศษแบบสวมอัด โดยต้องเป็นข้อต่อที่ออกแบบมาเฉพาะการเชื่อมต่อท่อ PE เท่านั้น ซึ่งข้อต่อจะมีไว้สำหรับการสวมอัดและขันให้เป็นเกลียวแน่น ไม่จำเป็นต้องใช้กาวหรือเทปพันเกลียว เพราะข้อต่อนี้ออกแบบมาสำหรับการเชื่อมต่อท่อ PE โดยเฉพาะอยู่แล้ว
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ เอสเอพี โฮมเซนเตอร์ ศูนย์รวมท่อประปา ท่อร้อยสายไฟฟ้า และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้องกับท่อทุกชนิด ด้วยคุณภาการผลิตจากเครื่องจักรทันสมัย ได้มาตรฐาน มอก. ยินดี ให้คำปรึกษา พร้อมบริการที่รวดเร็ว ทันใจ และคุ้มค่าในราคา สินค้าที่จำหน่าย เช่น ท่อ PE ท่อ HDPE ท่อ Syler ท่อ PVC และอื่น ๆ อีกมากมาย
ดูรายละเอียดได้ที่
https://www.saphomecenter.com/
Email: saphomec@gmail.com
โทร. : 085-567-1222, 092-775-9000
แฟ็กซ์ : 02-876-1733
LINE ID : @saphome