ทริคง่ายๆช่วยยืดอายุท่อPPR

ทริคง่ายๆช่วยยืดอายุท่อ PPR

ดูแลท่อ PPR อย่างไรให้คุ้มค่ากับการลงทุน

ท่อ PPR

 

ท่อ PPR หรือ Polypropylene Random Copolymer หรือที่หลายๆคนรู้จักในชื่อว่า ท่อสีเขียว อีกหนึ่งทางเลือกของระบบท่อประปา ที่กำลังกลายเป็นที่นิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ท่อPPR นี้เป็นท่อที่ทำมาจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง ไม่เป็นสนิม ไม่มีสารเคมี ปราศจากสารก่อมะเร็งเจอปน จึงทำให้ท่อPPR เหมาะสำหรับเป็นท่อในระบบท่อน้ำเพื่อการบริโภค ได้ทั้งน้ำร้อนและเย็น ภายในอาคาร บ้านพักอาศัย โรงพยาบาล โรงแรม อาคารสำนักงาน อาคารเรียน หรือแม้แต่อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ท่อน้ำสำหรับการผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร ท่อในเรือ ท่อสำหรับน้ำกลั่น น้ำกรอง น้ำแร่ ท่อลมแรงดันสูง ท่อน้ำสำหรับสระว่ายน้ำ ท่อน้ำเพื่อการเกษตร เป็นต้น อีกทั้ง ท่อPPR

ยังสามารถเชื่อมกับข้อต่อด้วยความร้อนได้โดยจะผสานเป็นเนื้อเดียวกันเพื่อลดปัญหาการรั่วซึมได้อีกด้วย และด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายของท่อPPRนี้ จึงไม่แปลกที่จะมีราคาต้นทุนที่สูงกว่าท่อชนิดอื่น เช่น ท่อPVC และแน่นอนว่าทุกการลงทุนนั้นย่อมเกิดความคาดหวังว่าจะเกิดความคุ้มค่าจากการลงทุน ซึ่งสิ่งที่จะช่วยให้คุ้มค่าแก่การลงทุนนั้น นอกจากจะขึ้นกับคุณภาพของท่อPPR แล้ว การดูแลรักษาท่อPPRก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันทั้งยังเป็นการช่วยรักษาคุณภาพของน้ำที่อยู่ในระบบท่อPPR ได้อีกด้วย วันนี้เอสเอพี โฮม เซนเตอร์ จึงมีเทคนิคการบำรุงรักษาท่อ PPR เพื่อยืดอายุการใช้งานมาฝากกัน


วิธีเลือกท่อPPR ให้มีคุณภาพ คุ้มค่ากับการลงทุน

  • พิจารณาจากการใช้งาน ว่าจะใช้เพื่ออะไร ติดตั้งในพื้นที่ส่วนไหนของอาคาร เพราะ=ช่วยให้กำหนดสโคป หรือขอบเขตได้ว่า ควรเลือกแบบไหน ขนาดเท่าไหร่ ข้อต่อเป็นอย่างไร

  • เลือกท่อที่เหมาะสม โดยดูข้อมูลที่ตัวท่อด้านนอก บริเวณสันท่อ โดยเฉพาะในส่วนระยะเวลาของการทนความร้อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่องของท่ออุดตัน ซึ่งอาจจะเกิดจากการหลอมท่อ และข้อต่อที่มีความผิดพลาดในบางประการ อีกทั้งควรพิจารณาในเรื่องของรูปแบบท่อ PPR ว่า สามารถเชื่อมกับ ข้อต่อได้มีความหลากหลายหรือไม่

  • ไม่ตัดสินใจซื้อท่อPPR ที่ราคาถูกจนเกินไป เนื่องจากเป็นไปได้ว่าอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นในภายหลังได้เร็วมากขึ้นหรือท่อนั้นอาจจะไม่ได้มาตรฐาน หรือหากไม่มั่นใจควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจ

  • เลือกผู้ขายหรือบริษัทที่ใส่ใจเรื่องบริการหลังการขาย มีพร้อมทั้งเรื่องบริการ ตอบคำถาม ให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการรับประกันหลังการขายด้วย

 

ทริคการบำรุงรักษาท่อ PPR เพื่อยืดอายุการใช้งาน

  1. เลือกประเภทท่อให้เหมาะสม
    ท่อ PPR ที่วางขายกันโดยทั่วไปนั้น จะมีขายอยู่สองรูปแบบก็คือท่อ PPR แบบ PN10 และ PN20 ซึ่งตัวเลขหลัง PN นี้จะเป็นตัวบอกว่าท่อสามารถรับแรงดันน้ำได้เท่าไร แน่นอนว่าการเลือกท่ออย่างถูกประเภทนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานท่อPPR ได้นั่นเอง โดย
    1.1 ท่อ PPR PN10 = รับความดันได้ 10 บาร์ และเหมาะกับน้ำอุ่นน้ำเย็น
    1.2 ท่อ PPR PN20 = รับความดันได้ 20 บาร์ และเหมาะกับน้ำร้อน
     
  2. ตรวจสอบรอยรั่ว
    หมั่นทำการตรวจเช็คท่อPPR ด้วยตนเองเป็นประจำ เนื่องจากท่อPPR มีลักษณะผสานเป็นเนื้อเดียวกัน แม้แต่ตัวท่อกับข้อต่อที่ผสานกันได้ด้วยความร้อน ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษ อย่างหนึ่งของท่อPPR จึงทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบรอยร้าวหรือรอยรั่วของท่อ ซึ่งสามารถทำการตรวจเช็คด้วยตัวเองได้ง่าย จากการ สังเกตด้วยตาเปล่า หรือใช้เครื่องมือช่วยเช่น แว่นขยายหรือไฟฉาย เพื่อตรวจสอบรอยรั่วที่จะอาจเป็นปัญหาในอนาคตได้ โดยหากพบการรั่วซึม ควรรีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนท่อที่ชำรุดโดยเร็ว เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นตามมาเป็นปัญหาใหญ่ และอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิม

  3. การรักษาความสะอาด
    คอยดูแลทำความสะอาดท่อPPR เป็นประจำเพื่อล้างสิ่งสกปรกหรือตะกอนต่างๆที่อาจเกิดการสะสมในท่อPPR ได้ โดนอาจะใช้น้ำยาล้างจานอ่อนๆ หรือน้ำยาสำหรับทำความสะอาดพลาสติกโดยตรง และใช้น้ำสะอาดล้างออก จนแน่ใจว่าสะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกตกค้าง นอกจากช่วยลดสิ่งที่อาจจะตกค้างแล้วยังช่วยรักษาคุณภาพของน้ำและคุณภาพของท่อได้อีกด้วย

  4. ติดตั้งฟิลเตอร์หรืออุปกรณ์ป้องกันการกัดกร่อน
    เมื่อใช้งานไปเรื่อยท่อPPR อาจโดนกัดกร่อนจากสารเคมีที่มีอยู่ในน้ำได้ ดังนั้นจึงควรติดตั้งฟิลเตอร์น้ำ(ไส้กรอง) หรือเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีระบบป้องกันการกัดกร่อนเพื่อลดความเสียหายจากการโดนสารเคมีที่เจือปนมากัดกร่อน และจะส่งผลให้ท่อPPR มีอายุการใช้งานที่สั้นลงนั่นเอง

  5. การเก็บรักษาท่ออย่างถูกต้อง
    เนื่องจากท่อPPR มีคุณสมบัติทนต่อทุกสภาพอากาศ และแรงกระแทก ไม่แตกหักง่าย จึงอาจทำให้หลายๆคนละเลยถึงวิธีการเก็บรักษาท่ออย่างถูกต้อง ซึ่งแน่นอนว่าอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของท่อPPR ได้ นั่นก็คือการเก็บรักษาท่อPPR ให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม คือ จัดเก็บในที่แห้งและป้องกันไม่ให้เกิดการบิดงอหรือการกดทับกัน ซึ่งอาจทำให้ท่อPPR เกิดความเสียหายตามมาได้นั่นเอง

  6. ป้องกันแสงแดด
    ถึงแม้ว่าท่อPPR จะมีคุณสมบัติในการแข็งแรง ทนทาน สามารถทนต่อสภาพอากาศได้ แต่การที่ปล่อยท่อให้เผชิญแสงแดดจัดๆเป็นเวลานาน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้อายุการใช้งานของท่อPPR ลดน้อยลงได้ ดังนั้นจึงควรคำนึงถึงเรื่องการป้องกันแสงแดดให้ท่อ เช่น อาจใช้การเคลือบสารป้องกันรังสีบนท่อPPR , การติดตั้งฟิล์มกันแดด หรือการฝังลงดินแทน เป็นต้น


การบำรุงรักษาท่อPPR เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลย เพราะนอกจากจะเป็นการรักษาท่อให้สามารถใช้งานได้ตามอายุ และเป็นการดูแลประสิทธิภาพของน้ำในระบบท่อให้สะอาด ถูกสุขลักษณะอยู่เสมอแล้ว ยังเป็นการทำให้เราสามารถประหยัดงบประมาณจากการต้องเปลี่ยนท่อ ที่เสื่อมสภาพก่อนหมดอายุการใช้งานอีกด้วย ซึ่งเอสเอพี โฮม เซนเตอร์ แนะนำให้ทำการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของช่างผู้ติดตั้ง หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถใช้งานท่อPPR ได้อย่างยาวนานตามอายุการใช้งานของท่อที่สามารถใช้งานได้มากกว่า 50 ปี และมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดระยะเวลาที่ใช้งานท่อนั่นเอง

ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสเอพี โฮม เซนเตอร์
SAP HOME CENTER LTD., PART.
www.saphomecenter.com
13/284 ถนนริมคลองบางค้อ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ 10150

โทร. : 085-567-1222, 092-775-9000 
Email: saphomec@gmail.com
แฟ็กซ์
: 02-876-1733
LINE ID : @saphome

Visitors: 520,755