การดูแลรักษา และ ยืดอายุการใช้งานท่อ PPR ให้ยาวนาน

6 วิธีในการดูแลรักษาท่อ PPR ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ท่อ PPR

ปัจจุบันท่อ PPR ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบประปา และ ระบบ HVAC เนื่องจากมีความทนทาน และ ต้องการการบำรุงรักษาต่ำ การบำรุงรักษา และ การดูแลอย่างเหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ท่อ PPR มีอายุการใช้งานยาวนาน และ มีประสิทธิภาพสูงสุด การทำความเข้าใจแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการบำรุงรักษา และ ดูแลท่อ PPR เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาฟังก์ชันการทำงานไว้เมื่อเวลาผ่านไปการดูแลรักษา และ ยืดอายุการใช้งานของท่อ PPR (Polypropylene Random Copolymer) นั้นเป็นสิ่งสำคัญในการใช้งานในระบบประปา และ ระบบส่งน้ำ อีกด้วย เนื่องจากท่อ PPR มีคุณสมบัติที่ทนทานต่อความร้อน และ การกัดกร่อน แต่หากดูแลรักษาไม่ถูกวิธี อายุการใช้งานอาจลดลงได้ ดังนั้นเราจะมาแนะนำวิธีการดูแลรักษาท่อ PPR ให้ใช้งานได้อย่างยาวนานมีอย่างไรบ้าง

แนะนำวิธีการดูแลรักษาท่อ PPR ให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

  1. .การติดตั้งท่อ PPR อย่างถูกต้อง
    สิ่งแรกที่สำคัญในการยืดอายุการใช้งานเลยคือการเลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสม โดยควรเลือกขนาดของท่อ PPR ให้เหมาะสมกับประเภทการใช้งาน และ แรงดันน้ำ หากเลือกขนาดท่อที่เล็กเกินไป อาจเกิดแรงดันน้ำสูงเกินไป ทำให้ท่อเสียหายเร็วกว่าที่ควรจะเป็นอีกทั้ง เลือกท่อ PPR ที่ติดตั้งในอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยในการติดตั้งท่อ PPR (ต่ำกว่า 60°C สำหรับน้ำร้อน) และ หลีกเลี่ยงการติดตั้งในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรงหากไม่ได้ใช้ท่อที่ออกแบบมาให้ทนต่อแสง UV อีกทั้งจำเป็นจะต้องติดตั้งระบบยึดท่ออย่างถูกวิธี จำเป็นต้องใช้ระบบยึดท่อ (Pipe Clamp) อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการขยับ หรือ การโก่งตัวของท่อที่อาจเกิดจากแรงดันน้ำ หรือ การขยายตัวเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอาจจะเกิดความเสียหายได้ และ การเชื่อมต่อท่อควรทำอย่างระมัดระวังควรเชื่อมต่อท่อโดยใช้วิธีการเชื่อมด้วยความร้อนที่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการใช้แรงกดมากเกินไปในการเชื่อมต่อ หรือ การบิดท่อ เพราะอาจทำให้ท่อเสียหายได้นั้นเอง

  2. การตรวจสอบสภาพท่ออย่างสม่ำเสมอ
    ในการใช้งานหากใช้ท่อ PPR ไปสักพักควรตรวจสอบการรั่วซึม อีกทั้งควรตรวจสอบระบบท่ออย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะบริเวณที่เชื่อมต่อ หรือ ข้อต่อต่างๆ หากพบการรั่วซึมควรซ่อมแซมทันทีเพื่อป้องกันการเสียหายของระบบในอนาคต และ หมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของท่อ ควรตรวจสอบว่าท่อมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรง โก่งงอ หรือ แตกร้าว หรือ ไม่ หากพบความผิดปกติควรเปลี่ยนท่อทันที

  3. การป้องกันความเสียหายจากสิ่งแวดล้อมโดยรอบ
    โดยท่อ PPR นั้นจำเป็นต้องป้องกันการสัมผัสแสงแดดโดยตรงซึ่งท่อ PPR ไม่เหมาะสมที่จะใช้งานกลางแจ้ง หรือ ติดตั้งในที่ที่โดนแสงแดดเป็นเวลานาน เนื่องจากแสง UV จากแสงแดดสามารถทำให้ท่อเสื่อมสภาพ และ กรอบง่าย ควรติดตั้งท่อในพื้นที่ที่มีร่มเงา หรือ ใช้ท่อ PPR ที่เคลือบสารป้องกัน UV หากจำเป็นต้องติดตั้งภายนอก อีกทั้งควรป้องกันท่อจากแรงกดดันภายนอก ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งท่อในที่ที่มีแรงกดทับ หรือ มีความเสี่ยงที่ท่อจะโดนแรงกระแทก เพราะท่ออาจแตกร้าว หรือ เสียหายได้ ควรหุ้มท่อ หรือ ใช้แผ่นรองรับท่อในจุดที่เสี่ยงต่อแรงกดด้วย

  4. ควบคุมอุณหภูมิ และ แรงดันน้ำ
    การใช้ท่อ PPR นั้นอาจจะต้องควบคุมอุณหภูมิในการใช้งานท่อน้ำร้อน ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้อุณหภูมิของน้ำสูงเกินกว่าที่ท่อ PPR รองรับได้ (ประมาณ 60°C) เพราะอาจทำให้ท่อเกิดการขยายตัวหรือ เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร รวมถึงต้องควบคุมแรงดันน้ำโดยหลีกเลี่ยงการใช้แรงดันน้ำที่สูงเกินไปสำหรับระบบท่อ PPR เพราะอาจทำให้ท่อแตก หรือ รั่วซึม ควรใช้ระบบควบคุมแรงดันน้ำให้เหมาะสมกับประเภทของท่อ

  5. การบำรุงรักษา และ ซ่อมแซมทันทีเมื่อพบปัญหา
    เมื่อพบการชำรุดควรซ่อมแซมทันทีเมื่อพบปัญหาหากพบปัญหาการรั่วซึม การแตก หรือ ความเสียหายของท่อPPR ควรซ่อมแซมทันที การปล่อยท่อที่มีปัญหาจะทำให้ระบบทั้งระบบเสื่อมเร็วขึ้นอีกทั้งการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ควรมีการตรวจสอบ และ บำรุงรักษาระบบท่อ PPR เป็นระยะๆ โดยเฉพาะในระบบที่มีการใช้น้ำร้อน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการเสื่อมสภาพ หรือ การเสียหายที่อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ได้

  6. การใช้อุปกรณ์ และ เครื่องมือที่เหมาะสม
    ควรใช้เครื่องมือที่ถูกต้องในการเชื่อม ท่อPPR เมื่อติดตั้ง หรือ ซ่อมแซมท่อ ควรใช้เครื่องมือที่ถูกต้องสำหรับการเชื่อมท่อ PPR การใช้เครื่องมือที่ไม่ถูกต้อง หรือ ไม่ตรงตามมาตรฐานอาจทำให้ท่อเกิดความเสียหายต่อตัวท่อได้ อีกทั้งควรใช้อุปกรณ์ข้อต่อคุณภาพสูง โดยควรเลือกใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อ และ ข้อต่อที่มีคุณภาพสูง เพื่อป้องกันการรั่วซึม และ การเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะเห็นได้ว่าการดูแลรักษาท่อ PPR ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานสิ่งแรกจำเป็นต้องติดตั้งอย่างถูกต้อง หมั่นตรวจสอบสภาพท่อ และ ระบบเป็นประจำ ป้องกันท่อจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย รวมถึงควบคุมแรงดัน และ อุณหภูมิของน้ำในระบบอย่างเหมาะสม อีกทั้งการบำรุงรักษา และ ซ่อมแซมทันทีหากพบปัญหากับตัวระบบ ท่อ PPR ซึ่งยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของท่อ PPR ได้อีกด้วย หากสนใจใช้งานท่อ PPR ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานนั้นเราขอแนะนำ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสเอพี โฮม เซนเตอร์ เป็นศูนย์รวม ท่อ PVC ท่อ HDPE ท่อ PPR ท่อ PE ร้อยสายไฟ และ อุปกรณ์ประกอบท่อประปาทุกชนิด และ ท่อร้อยสายไฟฟ้าทุกชนิด ซึ่งได้ผ่านการรับรองคุณภาพได้มาตรฐาน มอก. อีกทั้งยังผลิตโดยเครื่องจักรที่ทันสมัยพร้อมการบริการที่รวดเร็วทันใจ ให้ลูกค้าทุกท่านได้รับความพึงพอใจสูงสุด อีกทั้งยังมี ราคาถูก มีทั้ง ขายปลีก ขายส่ง เรายินดีให้คำแนะนำ และ บริการทุกๆท่านด้วยความเต็มใจนั้นเอง

 

***จำหน่าย ท่อ PE และ ท่อ PPR คุณภาพมาตรฐาน ทั้งปลีกและส่ง***

ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสเอพี โฮม เซนเตอร์
SAP HOME CENTER LTD., PART.
www.saphomecenter.com
13/284 ถนนริมคลองบางค้อ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ 10150

โทร. : 085-567-1222092-775-9000
Email: saphomec@gmail.com
แฟ็กซ์
: 02-876-1733
LINE ID : @saphome

Visitors: 579,994