ท่อ PPR ใช้กับน้ำดื่มได้ไหม? ปลอดภัยจริง หรือ แค่โฆษณา
ไขข้อสงสัยว่าท่อ PPR เหมาะกับการใช้สำหรับน้ำดื่มไหม

ในยุคปัจจุบันที่ความปลอดภัยของน้ำดื่มกลายเป็นประเด็นสำคัญ ท่อ PPR (Polypropylene Random Copolymer) จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย และ ทั่วโลกในฐานะทางเลือกสำหรับระบบท่อน้ำประปา และ น้ำดื่ม ด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน น้ำหนักเบา และ ติดตั้งง่าย ทำให้ท่อ PPR ถูกนำมาใช้ในบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ และ โรงงานอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “ท่อ PPR ปลอดภัยสำหรับน้ำดื่มจริง หรือ?” หรือ เป็นเพียงคำกล่าวอ้างทางการตลาดของผู้ผลิต ดังนั้นบทความนี้จะเจาะลึกถึงคุณสมบัติของท่อ PPR ความปลอดภัยเมื่อใช้กับน้ำดื่ม มาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้อ่านได้คำตอบที่ครบถ้วน และ ตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล
ท่อ PPR คือ อะไร และ เหตุใดจึงได้รับความนิยม
โดยเราจะพบว่าท่อ PPR ถูกผลิตขึ้นจากโพลีโพรพิลีนแบบสุ่ม (Random Copolymer Polypropylene) ซึ่งเป็นพลาสติกประเภทเทอร์โมพลาสติกที่มีความยืดหยุ่น และ ทนทาน โดยคุณสมบัติเด่นของท่อ PPR ได้แก่ ทนต่อการกัดกร่อนไม่เป็นสนิม หรือ ผุกร่อนเมื่อสัมผัสกับน้ำ หรือ สารเคมี , ทนความร้อน และเย็น โดยสามารถใช้ได้ทั้งน้ำร้อน (สูงถึง 95°C) และ น้ำเย็น , มีน้ำหนักเบาจึงง่ายต่อการขนย้าย และ ติดตั้ง , อายุการใช้งานยาวนานโดยมีอายุการใช้งานนานถึง 50 ปีเมื่อติดตั้งอย่างถูกต้อง และ มีการเชื่อมต่อที่แข็งแรงโดยใช้การเชื่อมด้วยความร้อน (heat fusion) ทำให้มีรอยต่อที่แน่นหนา และ ป้องกันการรั่วซึมได้ดี นั้นเอง
ในประเทศไทย ท่อ PPR ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากท่อประเภทนี้นั้นมีต้นทุนที่เหมาะสมราคาถูกกว่าท่อทองแดง หรือ สแตนเลส แต่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน อีกทั้งยังเหมาะกับสภาพอากาศชื้นของประเทศไทยทำให้ท่อโลหะเสี่ยงต่อการกัดกร่อน ท่อ PPR จึงเป็นทางเลือกที่ทนทานกว่า รวมถึงมีการใช้งานที่หลากหลายใช้ได้ทั้งในบ้าน คอนโดมิเนียม โรงแรม และ โรงงาน และ ยังติดตั้งง่ายสามารถใช้ช่างในที่เรียนรู้เทคนิคการเชื่อมท่อ PPR ด้วยเครื่องมือที่ไม่ซับซ้อน อีกด้วย
ความปลอดภัยของท่อ PPR สำหรับใช้กับน้ำดื่ม
คุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของท่อ PPR นั้นมีคุณสมบัติที่ทำให้ปลอดภัยสำหรับใช้กับน้ำดื่มซึ่ง ท่อ PPR ปราศจากสารพิษ (Non-Toxic) ผลิตจากโพลีโพรพิลีนที่ได้รับการรับรองว่าไม่มีสารพิษ เช่น BPA หรือ สารตะกั่ว ซึ่งอาจปนเปื้อนในน้ำ อีกทั้งยัง ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีในน้ำประปา เช่น คลอรีน ซึ่งมักใช้ในการบำบัดน้ำ รวมถึงช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรค โดยพื้นผิวภายในท่อเรียบลื่น จะช่วยลดการสะสมของตะกอน และ แบคทีเรียได้ และ ท่อ PPR ไม่ปล่อยสารที่ทำให้รสชาติ หรือ กลิ่นของน้ำเปลี่ยนแปลงได้
สำหรับการทดสอบในห้องปฏิบัติการจะสามารถแสดงให้เห็นว่า ท่อ PPR มีคุณภาพสูงไม่ปล่อยสารเคมีอันตรายเมื่อสัมผัสกับน้ำดื่ม ตัวอย่างเช่น การทดสอบตาม NSF/ANSI 61 ยืนยันว่าไม่มีสารโลหะหนักหรือ สารอินทรีย์ที่เป็นอันตรายปนเปื้อนในน้ำที่ไหลผ่านท่อ PPR อีกด้วย
ข้อดีของการใช้ท่อ PPR สำหรับน้ำดื่ม
- ความปลอดภัยต่อสุขภาพ
เมื่อเลือกท่อ PPR ที่ผ่านมาตรฐาน เช่น ISO 15874 หรือ NSF/ANSI 61 จะสามารถมั่นใจได้ว่าไม่มีสารพิษปนเปื้อนในน้ำดื่ม ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก หรือ ผู้สูงอายุ - ความทนทาน และ ความสะอาด
พื้นผิวภายในท่อ PPR นั้นมีคุณสมบัติเรียบลื่น ป้องกันการสะสมของตะกอน และ แบคทีเรีย ซึ่งช่วยรักษาคุณภาพน้ำให้สะอาด และ ปลอดภัยเมื่อเทียบกับท่อโลหะที่อาจเกิดสนิมได้ - ความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ท่อ PPR สามารถใช้ได้กับทั้งน้ำเย็น และ น้ำร้อน ทำให้เหมาะสำหรับกับบ้านที่ต้องการระบบน้ำครบวงจร เช่น น้ำดื่มจากเครื่องกรองน้ำ และ น้ำร้อนสำหรับอาบน้ำ - ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนาน และ ไม่ต้องบำรุงรักษามาก ท่อ PPR จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนท่อ หรือ ซ่อมแซมเมื่อเทียบกับท่อ PVC หรือ ท่อเหล็ก
การใช้ท่อ PPR สำหรับน้ำดื่มเป็นแค่ “โฆษณา” หรือ “ความจริง”?
โดยความจริงจะพบว่าหากใช้ท่อ PPR ที่ได้มาตรฐาน ผลิตจากวัสดุ Food Grade และ ติดตั้งอย่างถูกต้อง ท่อ PPR ถือเป็นหนึ่งในท่อน้ำดื่มที่ปลอดภัย และ ประหยัดที่สุดในตลาด แต่หากในโฆษณาชวนเชื่อ (กรณีท่อไม่มีคุณภาพ) สำหรับบางผู้ผลิตอาจเคลมว่าใช้ได้กับน้ำดื่มได้โดยไม่มีใบรับรอง หากคุณไม่ได้ตรวจสอบ อาจเสี่ยงต่อการใช้ท่อที่มีสารตกค้าง หรือ ปนเปื้อนในระยะยาวได้
จากที่กล่าวมาจะพบว่าท่อ PPR เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับน้ำดื่มเมื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐาน เช่น มอก. 2410-2554, ISO 15874 หรือ NSF/ANSI 61 โดยมีคุณสมบัติ เช่น ความปราศจากสารพิษ ความทนทาน และ การป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้ท่อ PPR เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัย และ อาคารในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยก็ขึ้นอยู่กับการเลือกท่อที่มีคุณภาพ การติดตั้งที่ถูกต้อง และ การบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม แสดงให้เห็นว่า ท่อ PPR เป็นตัวเลือกที่สมดุลทั้งในด้านความปลอดภัย และ ต้นทุน ดังนั้นหากสนใจในการใช้ ท่อ PPR ที่ได้มาตรฐานนั้นเราขอแนะนำ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสเอพี โฮม เซนเตอร์ เป็นศูนย์รวม ท่อ PVC ท่อ HDPE ท่อ PPR ท่อ PE ร้อยสายไฟ และ อุปกรณ์ประกอบท่อประปาทุกชนิด และ ท่อร้อยสายไฟฟ้าทุกชนิด ซึ่งได้ผ่านการรับรองคุณภาพได้มาตรฐาน มอก. ทั้งนี้ยังได้รับการผลิตโดยกระบวนการ และ เครื่องจักรที่ทันสมัยพร้อมการบริการที่รวดเร็วทันใจ ให้ลูกค้าทุกท่านได้รับความพึงพอใจสูงสุด อีกทั้งยังมี ราคาถูก มีทั้ง ขายปลีก ขายส่ง เรายินดีให้คำแนะนำ และ บริการทุกๆท่านด้วยความเต็มใจนั้นเอง
ติดต่อสอบถาม
ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสเอพี โฮม เซนเตอร์
13/284 ถนนริมคลองบางค้อ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ 10150
โทร. : 085-567-1222 , 092-775-9000
E-mail: saphomec@gmail.com
LINE ID : @saphome
